สถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์
Institute of Product Quality and Standardization | ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | โทรศัพท์ 0 5387 5640

ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีปริมาณการผลิตข้าวสูงสุดเป็นอันดับ 1 และเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก จากการสำรวจข้อมูลพบว่า ข้าวที่ผลิตในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นของสมาชิกสหกรณ์ และสหกรณ์เป็นผู้รวบรวมข้าวจากสมาชิกส่งออกขายให้กับบริษัทส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ 

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล   อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการศูนย์อาเซียนเพื่อการพัฒนาสหกรณ์การเกษตร (ACEDAC) ครั้งที่ 19  เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยมีตัวแทนสหกรณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าร่วม ได้แก่ บรูไน  กัมพูชา   อินโดนีเซีย  ลาว มาเลเซีย  พม่า  ฟิลิปปินส์  สิงคโปร์  ไทย เวียดนาม และตัวแทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วม เพื่อหารือและกำหนดกรอบความร่วมมือ รวมถึงผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะมีผลต่อการพัฒนางานสหกรณ์ในภูมิภาคอาเซียนให้เดินหน้าต่อไปในอนาคต     

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า การเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ผู้ผลิตข้าวกับประเทศต่าง ๆ ของอาเซียน จะนำไปสู่การรวมกลุ่มตลาดข้าวภูมิภาคประเทศอาเซียน หรือ
อินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เก็ต ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสหกรณ์ในภูมิภาคนี้ โดยใช้สินค้าข้าวเป็นตัวนำไปสู่ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ที่จะตามมา และนำไปสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสหกรณ์ในระดับภูมิภาคอาเซียนได้ในที่สุด

นายชูเกียรติ  ปันตา ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์จังหวัดลำพูน จำกัด กล่าวว่า  การเชื่อมโยงตลาดข้าวสหกรณ์กับต่างประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น ที่ผ่านมาชุมนุมสหกรณ์จังหวัดลำพูนได้มีการเชื่อมโยงตลาดข้าวสหกรณ์กับผู้นำเข้าข้าวกับประเทศสิงคโปร์ตามโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์เพื่อการส่งออก ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าและการค้าที่เป็นธรรม และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างชุมนุมสหกรณ์จังหวัดลำพูน จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัดสุขขะเฮาส์ ประเทศสิงคโปร์ กับสถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้       

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเกิดจากความต้องการข้าวอินทรีย์คุณภาพดี เพื่อขายให้แก่ผู้บริโภคในสิงคโปร์เป็นการตอบแทนต่อสังคม และความต้องการช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ซึ่งโครงการนี้ทั้งสามฝ่ายมีความรับผิดชอบที่แตกต่างกันออกไป โดยลักษณะพิเศษของข้าวสารชุมนุมฯ คือไม่มีการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอนการผลิต เป็นข้าวกล้องแต่มีการขัดถลอก 5% เพื่อให้ข้าวมีความอ่อนนุ่มแต่ยังคงรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ ข้าวอินทรีย์ที่ชุมนุมฯ ผลิตมีอยู่ 2-3 ชนิด แต่ที่ผลิตมากที่สุดคือ ข้าวหอมมะลิแดง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีความอ่อนนุ่ม แตกต่างจากข้าวแดงทั่วไป 

“เราจะให้ความใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพ   ทำให้ข้าวของชุมนุมฯ ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในตลาดสิงคโปร์ เนื่องจากระบบการปลูกข้าวที่ได้มาตรฐาน มีกระบวนการตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันในการทำธุรกิจกับทางสิงคโปร์ ชุมนุมฯ ทำการค้าด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบลูกค้า ผลิตและจำหน่ายสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการ และมีการวิจัยและพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการตลาด ประโยชน์จากการดำเนินโครงการดังกล่าวส่งผลให้เกษตรกรสมาชิกจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดประมาณ 5-8 บาทต่อกิโลกรัม และมีความเสี่ยงลดลงจากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า” นายชูเกียรติกล่าว

ทั้งหมดเป็นตัวอย่างของการดำเนินธุรกิจตลาดข้าวสารสหกรณ์ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสหกรณ์อื่น ๆ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการเชื่อมโยงเครือข่ายตลาดข้าวกับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนได้ ซึ่งในอนาคตกรมส่งเสริมสหกรณ์ยังมีแนวคิดที่จะให้มีการสร้างเครือข่ายสินค้าเกษตรที่สำคัญ ๆ อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พืชไร่ พืชผัก ผลไม้ ปศุสัตว์ ประมง โคนม ฯลฯ ในตลาดอาเซียนอีกด้วย โดยให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันผ่านเว็บไซต์ของ ACEDAC รวมทั้งตัวแทนสมาชิกยังได้เสนอให้มีการจัดงานแสดงสินค้าสหกรณ์อาเซียนในงานวันสหกรณ์แห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดเป็นครั้งแรกในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย.

credit from http://www.dailynews.co.th/agriculture/135223

ปรับปรุงข้อมูล : 1/1/2557 0:00:00     ที่มา : สถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 5152

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวกิจกรรม

ข่าวล่าสุด

IQS มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต้อนรับน้องๆนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการค่ายเทคโนโลยีชีวภาพ ครั้งที่ 22 เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 – 15.00 น. สถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (IQS) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้การต้อนรับน้องๆ นักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ ค่ายเทคโนโลยีชีวภาพ ครั้งที่ 22 จากหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 50 คน เข้าศึกษาดูงานและเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron Microscopy Laboratory) โ การศึกษาดูงานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนและผู้เข้าร่วมค่าย ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานของเครื่องมือจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการศึกษาวัสดุระดับนาโนและโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตในระดับเซลล์ ภายในกิจกรรมได้รับเกียรติจาก นางสาวสุขัญญา โกจินอก นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบัน IQS เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ ให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน การเตรียมตัวอย่าง และการประยุกต์ใช้เทคนิคดังกล่าวในงานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
14 พฤศจิกายน 2568     |      16312
IQS มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกิจกรรมรำลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ประจำปี 2568
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 07.30 น. ณ ลานอนุสาวรีย์ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย หน้าอาคารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (IQS) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เข้าร่วมกิจกรรม “รำลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ประจำปี 2568” เพื่อแสดงความระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน ผู้มีคุณูปการยิ่งต่อวงการอาชีวเกษตรของประเทศไทย และเป็นแบบอย่างของ “ลูกแม่โจ้” ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งความเพียรพยายามและการเสียสละ คณะผู้บริหารของ IQS ที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ตะวัน ฉัตรสูงเนิน ผู้อำนวยการสถาบัน นางริมฤทัย พุทธวงค์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและห้องปฏิบัติการ นายวรินทร โภคารัตน์ หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาและโครงการพิเศษ เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ผู้วางรากฐานการพัฒนา “แม่โจ้” ให้เป็นสถาบันการศึกษาด้านการเกษตรชั้นนำของประเทศ และเป็นผู้ผลักดันการเปลี่ยนผ่านวงการอาชีวเกษตรไทยให้ก้าวพ้นข้อจำกัดในอดีต ท่านเป็นบุคคลต้นแบบแห่งความมุ่งมั่น วิริยะ และความเสียสละ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับลูกศิษย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้สืบมาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้ปรัชญาอันทรงคุณค่า “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” ซึ่งได้กลายเป็นคติพจน์ประจำใจของ “ลูกแม่โจ้” ทุกคน  ในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารจากสถาบัน IQS ได้ร่วมถ่ายภาพกับรองศาสตราจารย์ ดร.ชัยยศ สัมฤทธิ์สกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และประธานกรรมการสถาบันฯ รวมทั้ง รองศาสตราจารย์ ดร.ดนุวัต เพ็งอ้น กรรมการสถาบันฯ และผู้ก่อตั้งสถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพื่อร่วมแสดงความเคารพและระลึกถึงคุณูปการของท่านผู้เป็นปูชนียบุคคลแห่งแม่โจ้อย่างพร้อมเพรียง
30 ตุลาคม 2568     |      11235
IQS มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รับการตรวจประเมินต่ออายุการรับรองปัจจัยการผลิตอินทรีย์ ประจำปี 2568 สำหรับผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ “MMO ตราแม่โจ้ กรีน”
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 สถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (IQS) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้การต้อนรับ คุณหทัยชนก อินทรกำแหง ผู้ตรวจประเมินจาก สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture Certification Thailand) ในโอกาสเข้าดำเนินการตรวจประเมินเพื่อต่ออายุการรับรอง ปัจจัยการผลิตอินทรีย์ประจำปี 2568 สำหรับผลิตภัณฑ์ จุลินทรีย์ชีวภาพ MMO ตราแม่โจ้ กรีน การให้การต้อนรับนำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ตะวัน ฉัตรสูงเนิน ผู้อำนวยการสถาบัน, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉันทนา ซูแสวงทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม, นายพัฒน์ โกจินอก หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมปัจจัยการผลิต พร้อมด้วยบุคลากรของสถาบัน IQS ร่วมให้ข้อมูลและรับการตรวจประเมินในกระบวนการดังกล่าว การตรวจประเมินในครั้งนี้มุ่งเน้นการพิจารณามาตรฐานการผลิตและควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ชีวภาพ MMO ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานปัจจัยการผลิตอินทรีย์ต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อยืนยันถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 
21 ตุลาคม 2568     |      4115
IQS มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยคณะผู้บริหารและทีมงานร่วมเข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ “จากงานวิจัยสู่ธุรกิจจริง : เร่งการเติบโต (Acceleration)” ณ โรงแรมแคนทารี่ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีคณะผู้บริหารและบุคลากรของ IQS เข้าร่วม ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ตะวัน ฉัตรสูงเนิน ผู้อำนวยการสถาบัน, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉันทนา ซูแสวงทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม, นายพัฒน์ โกจินอก หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมปัจจัยการผลิต, และ นางสาววาสนา กาฬภักดี นักวิทยาศาสตร์ การอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านการพัฒนางานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการประยุกต์แนวคิดด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนผลงานวิจัยให้สามารถต่อยอดสู่ธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดการอบรมสองวัน ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้จาก ดร.กันย์ กังวานสายชล CEO/Co-Founder บริษัท Algaeba Company Limited กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ถ่ายทอดแนวคิดด้านการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur Mindset) การออกแบบแผนธุรกิจ (Business Model Canvas) การวิเคราะห์คุณค่าผลิตภัณฑ์ (Value Proposition Canvas) และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI LLM เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนแนวคิด การฝึกปฏิบัติจริง และการนำเสนอแนวทางการต่อยอดงานวิจัยสู่ธุรกิจ ทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่บุคลากรของ IQS จะได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโครงการและบริการของสถาบันต่อไป ขอบคุณภาพจาก อุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
21 ตุลาคม 2568     |      165